กระชายดำมหัศจรรย์เพิ่มพลังเพศ ผลข้างเคียงและโทษ
สรรพคุณของกระชายดำเพิ่มพลังเพศ
กระตุ้นประสาททำให้กระชุ่มกระชวย บำรุงกำลัง ขับลม แก้ท้องอืด ท้องเฟ้อ เพิ่มฮอร์โมนทำให้สมรรถภาพทาง เพศเพิ่มขึ้น แก้ปวดเมื่อย ขับปัสสาวะ รักษาโรคความดันโลหิตสูง ขยายหลอดเลือดหัวใจ ด้วยสรรพคุณเหล่านี้ชาวเขาจึงปลูกกันมาแต่โบราณกาล ขณะที่ชาวพื้นราบเพิ่งตื่นเต้น กับกระแสสมุนไพรไทยไม่กี่ปีมานี้เอง โดยเฉพาะบรรดาคุณผู้ชายที่เริ่มรู้ตัวว่าอ่อนเปลี้ยเพลียแรง ไม่ซู่ซ่าส์เหมือนสมัยหนุ่ม ๆ พอรู้ว่ากินแล้วเพิ่มพลังอย่างว่าเลยขวนขวายหาซื้อกันใหญ่ เนื่องจาก ราคาไม่แพงมีเงินเป็นร้อยก็หาซื้อได้ ทำให้ตลาดกระชายดำมาแรงเพราะจะไปหาซื้อไวอะกร้าก็คง สู้ราคาไม่ไหว อย่างไรก็ตามถ้าไปถามนักวิชาการ ยังไม่กล้ายืนยันเรื่องสรรพคุณทางเพศเพียงแต่ บอกเป็นนัย ๆ ว่าเป็นยาอายุวัฒนะ ทำให้กระชุ่มกระชวยและบำรุงกำลัง กระชายดำ นั้นมีสรรพคุณหลายอย่างทั้งบำรุงกำลังเพิ่มฮอร์โมนทำให้ สมรรถภาพทาง เพศเพิ่มขึ้น แก้ปวดเมื่อย ขับปัสสาวะ ขับลม รักษาโรคความดันโลหิตสูง ขยายหลอดเลือดหัวใจ โรคเก๊าต์ โรคกระเพาะอาหาร สตรีประจำเดือนมาไม่ปกติ

กระชายดำมหัศจรรย์เพิ่มพลังเพศ ผลข้างเคียงและโทษ
สรรพคุณของกระชายดำหลักๆ
- บำรุงฮอร์โมนเพศชาย ทำให้ชายเหนือชาย
- กระตุ้นประสาท ทำให้กระชุ่มกระชวย
- บำรุงกำลัง
- เป็นยาอายุวัฒนะ ชลอความแก่
- ขับลม ขับปัสสาวะ
- แก้โรคกระเพาะอาหาร
- แก้ท้องอืด ท้องเฟ้อ เนื่องจากรับประทานอาหารไม่เป็นเวลา
- บำรุงเลือดสตรี แก้ตกขาว ทำให้ประจำเดือนมาเป็นปกติ
สรรพคุณของกระชายดำในส่วนต่างๆ
-
จากการค้นคว้าเอกสารงานวิจัยพบว่า สมุนไพรไทยกระชายดำนั้นมีสรรพคุณมากมาย และสามารถช่วยรักษาโรคต่าง ๆ ได้เกือบ 100 ชนิด
- ใช้เป็นยาอายุวัฒนะ ช่วยชะลอความแก่ มีคุณค่าทางคงกระพันชาตรี ด้วยการใช้เหง้านำมาหั่นเป็นแว่น แล้วนำไปตากแดดจนแห้ง นำมาบดให้เป็นผงละเอียดผสมกับน้ำผึ้งปั้นเป็นยาลูกกลอน ใช้กินเช้าเย็น
- ใช้เป็นยาบำรุงกำลัง ด้วยการใช้เหง้าผสมกับสมุนไพรชนิดอื่นเป็นยาดองเหล้า (เหง้า)
- ว่านกระชายดำช่วยบำรุงธาตุในร่างกาย (เหง้า)
- ช่วยบำรุงผิวพรรณของสตรีให้สวยสดใส ดูผุดผ่อง (เหง้า)
- ช่วยบำรุงฮอร์โมนเพศชาย[6] หากสุภาพสตรีรับประทานแล้วจะช่วยปรับสมดุลของฮอร์โมนทางเพศ (เหง้า)
- ช่วยเพิ่มสมรรถภาพทางเพศ บำรุงสมรรถภาพทางเพศชาย แก้กามตายด้าน ด้วยการใช้เหง้าสดนำมาดองกับเหล้าขาวและน้ำผึ้งแท้ (ในอัตราส่วน 1 กิโลกรัม : เหล้าขาว 3 ขวด : น้ำผึ้ง 1 ขวด) ดองทิ้งไว้ประมาณ 9-15 วัน แล้วนำมาใช้ดื่มวันละ 1-2 เป๊ก (เหง้า) (กระชายดําไม่ได้เป็นยาปลุกอารมณ์ทางเพศ แต่ช่วยทำให้อวัยวะเพศชายแข็งตัวได้ง่ายและบ่อยขึ้น มีระยะเวลาในการแข็งตัวที่นานขึ้น และสำหรับผู้ที่ไม่ได้มีปัญหาดังกล่าวก็สามารถรับประทานเพื่อช่วยเพิ่มความแข็งแรงได้)
- ช่วยกระตุ้นระบบประสาท บำรุงประสาท ทำให้ร่างกายกระชุ่มกระชวย (เหง้า)
- ช่วยในการนอนหลับ แก้อาการนอนไม่ค่อยหลับในตอนกลางคืน ช่วยทำให้นอนหลับดีขึ้น (เหง้า)
- ช่วยบำรุงหัวใจ[3],[8] ช่วยขยายหลอดเลือดหัวใจ แก้โรคหัวใจ (เหง้า)
- ช่วยบำรุงโลหิตของสตรี (เหง้า)
- ช่วยในระบบหมุนเวียนโลหิตของร่างกาย ทำให้โลหิตไหลเวียนได้ดีขึ้น (เหง้า)
- ช่วยทำให้เจริญอาหาร (เหง้า)
- ช่วยรักษาโรคความดันโลหิต รักษาสมดุลของความดันโลหิต (เหง้า)
- ช่วยรักษาโรคเบาหวาน ช่วยลดระดับน้ำตาลในเลือด (เหง้า)
- ช่วยรักษาโรคภูมิแพ้ (เหง้า)
- ช่วยแก้หอบหืด (เหง้า)
- ช่วยแก้อาการใจสั่นหวิว แก้ลมวิงเวียน (เหง้า)
- เหง้าใช้ต้มดื่มแก้โรคตา ช่วยรักษาสายตา (เหง้า)
- ช่วยรักษาแผลในช่องปาก ปากเป็นแผล ปากเปื่อย ปากแห้ง (เหง้า)
- ช่วยแก้โรคตานซางในเด็ก แก้ซางตานขโมยในเด็ก (เหง้า)
- ช่วยแก้อาการแน่นหน้าอก (เหง้า)
- ช่วยรักษาโรคในช่องท้อง มีฤทธิ์ต่อต้านเชื้อแบคทีเรียในลำไส้ (เหง้า)
- ช่วยขับลม แก้อาการจุกเสียด (เหง้า)
- ช่วยแก้อาการปวดท้อง ปวดมวนในท้อง อาการท้องเดิน (เหง้า) หากมีอาการท้องเดินให้ใช้เหง้านำมาปิ้งไฟให้สุกแล้วนำมาตำให้ละเอียด ใช้ผสมกับน้ำปูนใสแล้วคั้นเอาแต่น้ำมาดื่มครั้งละ 3-5 ช้อนแกงหลังจากการถ่ายเนื่องจากมีอาการท้องเดิน (เหง้า)
- ช่วยรักษาโรคท้องร่วง (เหง้า)
- ช่วยในการย่อยอาหาร รักษาระบบการย่อยอาหารให้เกิดความสมดุล (เหง้า)
- กระชายดำแก้อาการท้องอืด ท้องเฟ้อ (เหง้า)
- ช่วยรักษาโรคบิด แก้อาการบิดเป็นมูกเลือด (เหง้า)
- สรรพคุณกระชายดำ ช่วยรักษาโรคกระเพาะอาหารอันเนื่องมาจากการรับประทานอาหารไม่เป็นเวลา (เหง้า)
- ช่วยขับปัสสาวะ แก้อาการขัดเบา แก้ปัสสาวะพิการ (เหง้า)
- ช่วยแก้อาการตกขาวของสตรี (เหง้า)
- ช่วยขับประจำเดือน แก้อาการประจำเดือนมาไม่เป็นปกติของสตรี (เหง้า)
- เหง้าใช้โขลกผสมกับเหล้าขาวคั้นเป็นน้ำดื่ม ช่วยแก้โรคมดลูกพิการ มดลูกหย่อนได้ (เหง้า)
- ช่วยแก้ฝีอักเสบ (เหง้า)
- ช่วยรักษากลากเกลื้อน (เหง้า)
- ช่วยแก้อาการปวดหลัง ปวดเมื่อยตามร่างกาย ปวดกล้ามเนื้อ และมีอาการเหนื่อยล้า (เหง้า)
- ช่วยรักษาโรคปวดข้อ (เหง้า)
- ช่วยรักษาโรคเกาต์ (เหง้า)
- ช่วยแก้อาการเหน็บชา (เหง้า)
- กระชายดำช่วยขับพิษต่าง ๆ ในร่างกาย (เหง้า)
- ช่วยรักษาอาการมือเท้าเย็น (เหง้า)
- กระชายดำมีฤทธิ์ในการช่วยรักษาเชื้อราที่เป็นสาเหตุทำให้เกิดโรคผิวหนัง (เหง้า)
- เหง้าใช้ต้มกับน้ำให้สตรีหลังคลอดบุตรดื่ม จะช่วยขับน้ำนม รักษาอาการตกเลือด และช่วยทำให้มดลูกเข้าอู่เร็วขึ้น (เหง้า)
ผลข้างเคียงและโทษกระชายดำ
- ห้ามใช้กระชายดำในเด็กและในผู้ป่วยที่เป็นโรคตับ
- ผลข้างเคียงของกระชายดำ การรับประทานในขนาดสูงอาจทำให้เกิดอาการใจสั่นได้
- การรับประทานเหง้ากระชายดำติดต่อกันเป็นเวลานานอาจทำให้เหงือกร่น
- กระชายดำสามารถรับประทานได้ทั้งหญิงและชายโดยไม่เกิดผลข้างเคียงใด ๆ ยิ่งสำหรับผู้สูงอายุก็พบว่านิยมใช้กันมานานมากแล้ว
- แม้จะมีงานวิจัยในสัตว์ทดลองที่ระบุว่ากระชายดำไม่พบว่ามีความเป็นพิษ แต่ยังไม่มีรายงานการศึกษาวิจัยเพื่อประเมินประสิทธิผลของการใช้กระชายดำในคน จึงควรรับประทานในปริมาณที่พอเหมาะเพื่อความปลอดภัย
วิธีใช้กระชายดํา
สำหรับวิธีการใช้กระชายดำเพื่อเป็นยาอายุวัฒนะ ใช้เป็นยาแก้ปวดท้อง แก้โรคบิด และลมป่วงทุกชนิด
- ถ้าเป็นเหง้าสด ให้ใช้ประมาณ 4-5 เหง้านำมาดองกับเหล้าขาว 1 ขวดก่อนนำมารับประทานเป็นอาหารเย็น ในปริมาณ 30 cc. หรือจะฝานเป็นแว่นบาง ๆ แช่กับน้ำดื่ม หรือนำมาดองกับน้ำผึ้งในอัตราส่วน 1:1[1],[4]
- หากเป็นเหง้าแห้งก็ให้ใช้ดองกับน้ำผึ้งในอัตราส่วน 1 ต่อ 1 นาน 7 วัน แล้วนำมาใช้ดื่มก่อนนอน[1],[4]
- หากเป็นแบบชงหรือแบบผง ให้ใช้ผงแห้ง 1 ซองชงกับน้ำร้อน 1 แก้ว (ขนาด 120 cc.) และแต่งรสด้วยน้ำผึ้งหรือน้ำตาลตามความต้องการแล้วนำมาดื่ม[4]
ข้อมูลทางเภสัชวิทยาของกระชายดำ
สารสกัดกระชายดำด้วยเอทานอลมีฤทธิ์ช่วยเพิ่มการไหลเวียนของเลือดไปยังอวัยวะเพศของหนูเพศผู้และสุนัข และยังมีผลช่วยเพิ่มความหนาแน่นของอสุจิ และเพิ่มระดับ Testosterone แต่ไม่ทำให้พฤติกรรมทางเพศเปลี่ยนไป นอกจากนี้หนูขาวที่ได้รับสารสกัดแอลกอฮอล์ความเข้มข้นสูงในขนาด 1,000 มก./กก./วัน เป็นระยะเวลา 4 สัปดาห์ พบว่าสามารถช่วยป้องกันภาวะผสมไข่ไม่ติดได้อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ และสารสกัดดังกล่าวยังส่งผลทำให้ตับโตขึ้นด้วย[1]
- มีฤทธิ์ต้านการอักเสบ ( สาร 5,7-DMF ที่แยกได้จากเหง้ากระชายดํา) ต้านการอักเสบแบบเฉียบพลันได้ดีกว่าแบบเรื้อรัง โดยแสดงฤทธิ์ในการยับยั้งการบวมของอุ้งเท้าหนูขาว และมีฤทธิ์ลดไข้[1],[4]
- มีฤทธิ์ต้านเชื้อ Plasmodium falciparum ที่เป็นสาเหตุของโรคมาลาเรีย (สาร 5,7,4’-trimethoxyflavone และ 5,7,3’,4’ -tetramethoxyflavone) และมีฤทธิ์ต้านเชื้อ Candida albicans และฤทธิ์ต้านเชื้อ Mycobacterium อย่างอ่อน (สาร 3,5,7,4’-tetramethoxyflavone และ 5,7,4’-trimethoxyflavone)[1],[4]
- กระชายดำมีฤทธิ์ในการช่วยยับยั้งเชื้อ S. aureus และ B. subtilis[8]
- สารสกัดด้วยเอทานอลจากกระชายดำมีฤทธิ์ขยายหลอดเลือดแดงใหญ่ ลดการหดเกร็งของลำไส้เล็กส่วนปลายของหนูขาว และยังช่วยยับยั้งการเกาะกลุ่มกันของเกล็ดเลือดในคน[4]
- จากการศึกษาทางพิษวิทยาในหนูทดลองเป็นระยะเวลา 6 เดือน ในขนาดตั้งแต่ 20-2,000 มิลลิกรัม/กิโลกรัม/วัน เปรียบเทียบกับกลุ่มควบคุม พบว่าหนูที่ได้รับกระชายดำทุกกลุ่มมีน้ำหนักตัวเพิ่มขึ้น ส่วนอาการและสุขภาพไม่แตกต่างจากกลุ่มควบคุม และหนูที่ได้รับกระชายดำในขนาด 2,000 มก./กก./วัน มีน้ำหนักสัมพัทธ์ของตับสูงกว่ากลุ่มควบคุม มีเม็ดเลือดขาวอีโอซิโนฟิลต่ำกว่ากลุ่มควบคุม แต่ยังคงอยู่ในช่วงค่าปกติ สำหรับหนูเพศเมียจะมีระดับคอเลสเตอรอลสูงกว่ากลุ่มควบคุม และทุกกลุ่มไม่พบว่ามีความเป็นพิษเมื่อตรวจอวัยวะภายในด้วยวิธีทางจุลพยาธิวิทยา[1],[4]

กระชายดำมหัศจรรย์เพิ่มพลังเพศ ผลข้างเคียงและโทษ
ประโยชน์ของกระชายดำ
ประโยชน์กระชายดำ ในปัจจุบันนอกจากเราจะใช้กระชายดำเพื่อเป็นยาสมุนไพรทั้งแบบหัวสดและแบบแห้ง ยังมีการนำไปบดเป็นผงบรรจุซองไว้ชงกับน้ำร้อนเพื่อใช้เป็นเครื่องดื่มเสริมสุขภาพ “น้ำกระชายดำ” และยังนำมาทำเป็น “ลูกอมกระชายดำ” แต่ที่นิยมมากที่สุดในปัจจุบันก็คือการนำมาทำเป็น “ไวน์กระชายดำ” หรือนำไปผลิตเป็นยาสมุนไพร “กระชายดําแคปซูล” (แคปซูลกระชายดํา), “กระชายดําผง“, “ยาน้ำกระชายดำ” หรือแปรรูปเป็น “กาแฟกระชายดํา
กระชายดำ (โสมไทย, โสมกระชายดำ) ชื่อสามัญ Black galingale
กระชายดํา มีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Kaempferia parviflora Wallich. ex Baker. (ชื่อพ้องวิทยาศาสตร์ K. rubromarginata (S.Q. Tong) R.J. Searle และ Stahlianthus rubromarginatus S.Q. Tongl.) จัดอยู่ในวงศ์ขิง (ZINGIBERACEAE)[1]
สมุนไพรกระชายดำ มีชื่อท้องถิ่นอื่น ๆ ว่า ขิงทราย (มหาสารคาม), กะแอน ระแอน ว่านกั้นบัง ว่านกำบัง ว่านกำบังภัย ว่านจังงัง ว่านพญานกยูง (ภาคเหนือ) เป็นต้น

กระชายดำมหัศจรรย์เพิ่มพลังเพศ ผลข้างเคียงและโทษ
- ใบกระชายดำ มีใบเป็นใบเดี่ยว ลักษณะเป็นรูปรีหรือรูปไข่ มีความกว้างประมาณ 5-10 เซนติเมตรและยาวประมาณ 10-15 เซนติเมตร ปลายใบแหลม ขอบใบหยักตามเส้นใบ ผิวใบเป็นร่องคลื่นตลอดใบตามแนวของเส้นใบ ใบมีสีเขียวสด ส่วนโคนก้านใบมีลักษณะเป็นกาบหุ้มลำต้นไว้ ขอบก้านใบมีสีแดงตลอดความยาวของก้าน ส่วนกลางก้านเป็นร่องลึก

กระชายดำมหัศจรรย์เพิ่มพลังเพศ ผลข้างเคียงและโทษ
- ดอกกระชายดำ ดอกออกเป็นช่อแทรกขึ้นมาจากโคนกาบใบ ก้านช่อดอกมีความยาวประมาณ 5-6 เซนติเมตร กลีบดอกที่ส่วนโคนเชื่อมเป็นหลอด ยาวประมาณ 3-3.2 เซนติเมตร ที่ปลายแยกเป็นแฉก เกสรตัวผู้เป็นหมัน มีสีขาว ลักษณะเป็นรูปขอบขนาน มีความกว้างประมาณ 3 มิลลิเมตรและยาวประมาณ 10-13 มิลลิเมตร ส่วนกลีบปากมีสีม่วง

กระชายดำมหัศจรรย์เพิ่มพลังเพศ ผลข้างเคียงและโทษ